ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อย ฟื้นตัวขึ้นตามหุ้นสหรัฐ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) โดยลดช่วงติดลบลง หลังได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ ซึ่งได้ช่วยบดบังความวิตกในตลาดหุ้นยุโรปเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.11% ปิดที่ 361.09 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,803.44 จุด ลดลง 28.63 จุด หรือ -0.59%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,760.73 จุด ลดลง 65.09 จุด หรือ -0.51% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,866.10 จุด ลดลง 31.40 จุด หรือ -0.53%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดถูกกดดันในช่วงแรกจากการดีเบตรอบแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน เนื่องจากปธน.ทรัมป์ทำให้เกิดความวิตกว่า เขาอาจจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง หากเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้แก่นายไบเดน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น หลังเจ้าหน้าที่แสดงความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 นั้น ได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวัน

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดไตรมาส 3 ปรับตัวลง 1.5% ในเดือนก.ย. โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรปหลังการแยกตัว (Brexit)

อังกฤษรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 7,000 รายเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และประเทศยุโรปหลายแห่งพิจารณาคุมเข้มข้อจำกัดเพื่อพยายามที่จะควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

หุ้นเชลล์ ร่วงลง 1.3% หลังประกาศแผนปรับลดพนักงานทั่วโลกลงราว 10% ขณะที่หุ้นบีพี ลดลง 1.54%

หุ้นโรลส์-รอยซ์ของอังกฤษ ร่วง 7.41% ขณะที่หุ้นอาดิดาสและดอยซ์ โพสต์ของเยอรมนี ร่วง 1.81% และ 1.47% ตามลำดับ