ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.20% ปิดที่ 361.80 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,824.04 จุด เพิ่มขึ้น 20.60 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,730.77 จุด ลดลง 29.96 จุด หรือ -0.23% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,879.45 จุด เพิ่มขึ้น 13.35 จุด หรือ +0.23%
ตลาดปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก โดยถูกถ่วงลงตามการร่วงลงของหุ้นกลุ่มน้ำมัน หลังราคาน้ำมันร่วงลงหนักถึง 5% เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันลดลงท่ามกลางการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซร่วงลงหนักที่สุด 1.7% โดยหุ้นโททาลของฝรั่งเศส, หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ของอังกฤษ ร่วงลงราว 2.4-3.8
ประเทศในยุโรปพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น โดยกรุงมาดริดของสเปนเป็นเมืองแรกที่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่นายแมตต์ แฮนค็อก รมว.สาธารณสุขของอังกฤษได้ออกมาตรการจำกัดเพิ่มขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลการว่างงานที่เพิ่มขึ้นในยุโรป โดยยูโรสแตทรายงานว่า การว่างงานในยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.1% ของกำลังแรงงานในเดือนส.ค. จาก 8.0% ในเดือนก.ค. ขณะที่ผลสำรวจภาคการผลิตของยูโรโซนนั้นเป็นไปตามคาดเป็นส่วนใหญ่ในเดือนก.ย.
หุ้นไบเออร์ของเยอรมนี ร่วง 13.1% หลังคาดว่ากำไรของบริษัทอาจลดลงในปีหน้า และบริษัทอาจต้องปรับลดมูลค่าทางบัญชีของธุรกิจด้านการเกษตรลงเกือบ 1 หมื่นล้านยูโร
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ยังคงเป็นปัจจัยถ่วงตลาดด้วย
แต่หุ้น H&M ของสวีเดน พุ่งขึ้น 6.1% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3 สูงเกินคาด และประกาศแผนปิดร้าน H&M หลายร้อยแห่งในปีหน้า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ลูกค้าทำการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์มากขึ้น
หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ พุ่ง 6.9% หลังคาดการณ์ยอดขายปีนี้สูงกว่าคาดการณ์ครั้งก่อน
หุ้นบันโก บีพีเอ็ม ธนาคารใหญ่สุดอันดับ 3 ของอิตาลี พุ่ง 4.2% หลังมีรายงานว่าธนาคารเครดิต อากริโคลของฝรั่งเศสอาจทำข้อตกลงซื้อบันโก บีพีเอ็ม