ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 100 จุด บ่งชี้วอลล์สตรีทดีดตัวต่อเนื่องจากวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 6, 2020 20:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ต่อเนื่องจากที่ทะยานขึ้นเมื่อวานนี้

ณ เวลา 20.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 149 จุด หรือ 0.53% สู่ระดับ 28,144 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุด ทะลุแนว 28,000 เมื่อคืนนี้ ขานรับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีอาการดีขึ้น และล่าสุดได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ รวมทั้งรายงานดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด

นายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะที่ปธน.ทรัมป์มุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มีข้อตกลงดังกล่าว

นายมีโดวส์ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโควิด-19 ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันศุกร์ เขาก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทางด้านนางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวในวันนี้ว่า IMF จะปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในภาวะที่น่าวิตกเหมือนกับในช่วงที่ IMF รายงานตัวเลขประมาณการในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

นางจอร์จีวากล่าวว่า IMF จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจโลกครั้งใหม่ในสัปดาห์หน้า ซึ่ง IMF จะจัดการประชุมประจำปีของประเทศสมาชิกผ่านทางระบบออนไลน์

"เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากแตะระดับต่ำสุดในช่วงวิกฤตการณ์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีอนาคตที่ไม่แน่นอน และเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอย" นางจอร์จีวากล่าว

ทั้งนี้ ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา IMF ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า พร้อมกับเตือนว่าสถานะทางการคลังของรัฐบาลประเทศต่างๆจะทรุดตัวลงอย่างหนัก ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการทุ่มงบประมาณเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.9% ในปีนี้ ซึ่งย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะหดตัวลง 3% นอกจากนี้ IMF ยังปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าสู่ระดับ 5.4% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะขยายตัว 5.8%

นักลงทุนจับตาการประชันวิสัยทัศน์ของคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน และนางคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ในการดีเบตวันที่ 7 ต.ค.นี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลการค้าเดือนส.ค., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค. และรายงานการประชุมเดือนก.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ