ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในสหรัฐ แม้ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในยุโรปก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.78% ปิดที่ 368.31 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,911.94 จุด เพิ่มขึ้น 29.94 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,042.21 จุด เพิ่มขึ้น 113.64 จุด หรือ +0.88% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,978.03 จุด เพิ่มขึ้น 31.78 จุด หรือ +0.53%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นด้านการคลังครั้งใหม่
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ รวมถึงกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ ปรับตัวขึ้นมากที่สุด ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเวชภัณฑ์ช่วยหนุนตลาดปรับตัวขึ้นด้วย
หุ้นเชลล์และหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.67% และ 2.32% ตามลำดับ หลังราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือ 43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากสัญญาณการขาดแคลนน้ำมันดิบ โดยอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน "เดลต้า" ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกต้องถูกระงับมากกว่า 90%
หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้นด้วย โดยหุ้น IAG เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ และหุ้นลุฟท์ฮันซา พุ่ง 10.26% และ 6.14% ตามลำดับ