ดาวโจนส์ปรับตัวแคบ นักลงทุนกังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ,เลือกตั้งปธน.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 22, 2020 20:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ณ เวลา 20.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,236.60 จุด บวก 25.78 จุด หรือ 0.09%

ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นกว่า 3% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5

นักลงทุนผิดหวังต่อการที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และมีการคาดการณ์กันว่า ทั้งสองฝ่ายอาจเลื่อนการเจรจาไปหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ทั้งนี้ ในขณะที่เหลือเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี นางเพโลซีและนายมนูชินยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญ ซึ่งได้แก่ การให้เงินช่วยเหลือต่อมลรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินของภาคธุรกิจ

ทางด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

"หลายประเด็นสำคัญยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้การบรรลุข้อตกลงไม่น่าจะเป็นไปได้" นายอเล็ก ฟิลลิปส์ นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงาน

"ในขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก และเวลาก็เหลือน้อยลง ทำให้คุณเพโลซีและคุณมนูชินคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้ง และต่อให้ทั้งสองคนบรรลุข้อตกลง ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่สภาคองเกรสจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนการเลือกตั้ง" รายงานระบุ

ส่วนนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐ และนายคริส เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) แถลงว่า รัสเซียและอิหร่านได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสหรัฐ พร้อมทั้งประกาศว่า สหรัฐจะตอบโต้ประเทศใดๆ ก็ตามที่มีส่วนแทรกแซงการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการดีเบตรอบสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตในวันนี้เวลา 21.00-22.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพรุ่งนี้เวลา 08.00-09.30 น.ตามเวลาไทย

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 787,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 875,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 842,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าระดับ 1 ล้านรายเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน หลังจากพุ่งเหนือระดับ 1 ล้านรายเป็นเวลานาน 5 เดือน นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือนมี.ค.

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ภาคธุรกิจปิดกิจการ และมีการปลดพนักงานจำนวนมาก

กระทรวงแรงงานยังเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 1.02 ล้านราย สู่ระดับ 8.37 ล้านราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ