ดาวโจนส์เปิดแดนลบ ตลาดปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 27, 2020 21:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบวันนี้ โดยตลาดปรับตัวลงต่อเนื่องจากที่ดิ่งลงอย่างหนักวานนี้

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป ซึ่งจะเปิดเผยหลังจากปิดตลาดวันนี้

ณ เวลา 21.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,657.78 จุด ลบ 27.60 จุด หรือ 0.13%

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ ทำสถิติปรับตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในสหรัฐและยุโรป รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ

มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เปิดเผยว่า สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กว่า 83,000 รายทั้งในวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในวันศุกร์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 83,700 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มากกว่าเมื่อกลางเดือนก.ค. ซึ่งขณะนั้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 77,300 ราย

นอกจากนี้ จากการคำนวณของสำนักข่าว CNBC พบว่า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สหรัฐมีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ย 68,767 รายต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าช่วง 7 วันก่อนหน้านี้ถึง 22%

นักลงทุนยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า มีแนวโน้มที่รัฐบาลและพรรคเดโมแครตจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

"เรามีความเชื่อมั่นว่าเราจะบรรลุข้อตกลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า" นางอลิสซา ฟาราห์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าว

อย่างไรก็ดี คำแถลงของทำเนียบขาวสร้างความกังวลว่าทั้งสองฝ่ายอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ทางด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

"หลายประเด็นสำคัญยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้การบรรลุข้อตกลงไม่น่าจะเป็นไปได้" นายอเล็ก ฟิลลิปส์ นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงาน

"ในขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก และเวลาก็เหลือน้อยลง ทำให้คุณเพโลซีและคุณมนูชินคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้ง และต่อให้ทั้งสองคนบรรลุข้อตกลง ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่สภาคองเกรสจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนการเลือกตั้ง" รายงานระบุ

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%

นอกจากนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนส.ค.

ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนก.ค.

ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนก.ค.

ราคาบ้านได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้ซื้อบ้าน, สต็อกบ้านที่ตึงตัว และอัตราดอกเบี้ยจำนองที่ระดับต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ