ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับฐานในคืนนี้ หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และจะมีการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์
ณ เวลา 18.27 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 86 จุด หรือ 0.29% สู่ระดับ 29,912 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุด ทะลุแนว 30,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ ขานรับความชัดเจนของทิศทางการเมืองสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 13% ในเดือนนี้ ทำให้มีแนวโน้มทำสถิติทะยานขึ้นเมื่อเทียบรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งเหนือระดับ 30,000 จุดเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรก หลังจากปธน.ทรัมป์มอบหมายให้นางเอมิลี เมอร์ฟีย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐ (GSA) เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่คณะบริหารของนายไบเดน ซึ่งทำให้เขาสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆที่จำเป็นในการถ่ายโอนอำนาจ และเปิดทางให้สามารถเข้าทำหน้าที่ในทำเนียบขาวได้อย่างราบรื่น
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า วัคซีนที่บริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ขณะที่ไฟเซอร์ระบุว่า วัคซีน BNT162b2 ที่บริษัทพัฒนาร่วมกับบริษัท BioNTech มีประสิทธิภาพมากถึง 95% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งสูงกว่าวัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ ที่มีประสิทธิภาพ 94.5%
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 4-5 พ.ย.ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นของเฟดเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19