ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดช่วงติดลบ หลังมีข่าวว่าโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ เตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในวันนี้ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน
ณ เวลา 19.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 127 จุด หรือ 0.43% สู่ระดับ 29,747 จุด หลังจากดิ่งลงเกือบ 300 จุดในช่วงแรก
ถึงแม้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในวันนี้ แต่ก็ได้พุ่งขึ้นเกือบ 13% นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. และมีแนวโน้มทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค.2530 โดยได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ โมเดอร์นาแถลงว่า ทางบริษัทเตรียมยื่นเรื่องต่อ FDA ในวันนี้ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ 94.1% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
โมเดอร์นานับเป็นบริษัทยาแห่งที่ 2 ที่ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินต่อทาง FDA หลังจากที่ไฟเซอร์ได้ยื่นเรื่องก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 พ.ย.
การยื่นขออนุมัติดังกล่าว จะทำให้ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนของโมเดอร์นาในเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์
โมเดอร์นาระบุว่า ผลการวิเคราะห์ครั้งใหม่พบว่า จากการทดลองในอาสาสมัครจำนวน 30,000 ราย มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนเพียง 196 ราย โดย 185 รายมาจากกลุ่มที่ได้รับวัคซีนหลอก ส่วนอีก 11 รายมาจากกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริง ส่งผลให้การทดลองดังกล่าวบ่งชี้ประสิทธิภาพของวัคซีนสูงถึง 94.1% ซึ่งสูงกว่าผลวิเคราะห์เบื้องต้นที่ทางบริษัทเปิดเผยเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ระดับ 94%
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงเกือบ 300 จุดในช่วงแรก หลังจากสื่อรายงานว่า สหรัฐเตรียมขึ้นบัญชีดำบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน (SMIC) และไชน่า เนชั่นแนล ออฟชอร์ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น (CNOOC) โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้เป็นของกองทัพจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.2564 โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน ปธน.ทรัมป์ก็ได้ลงนามในคำสั่งห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันลงทุนในบริษัทจีนที่ถูกครอบครองและควบคุมโดยกองทัพจีน