ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก รับความหวังสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 2, 2020 09:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืน ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับรายงานที่ว่านายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะหารือกันเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 9 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 รวมทั้งข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดของจีน

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,453.52 จุด เพิ่มขึ้น 1.58 จุด หรือ +0.05% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,884.99 จุด เพิ่มขึ้น 97.45 จุด, +0.36% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,670.12 จุด เพิ่มขึ้น 102.44 จุด, +0.39% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 13,970.51 จุด เพิ่มขึ้น 84.84 จุด, +0.61% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,645.88 จุด เพิ่มขึ้น 11.63 จุด, +0.44% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,805.50 จุด ลดลง 8.62 จุด, -0.31% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,604.49 จุด เพิ่มขึ้น 2.23 จุด, +0.14%

นายมนูชินเปิดเผยว่า เขาจะหารือกับนางเพโลซีเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ วงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อเสนอของวุฒิสภา เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า สภาคองเกรสจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในไม่ช้านี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) เพื่อขออนุมัติการจำหน่ายวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน ซึ่งหาก EMA ให้การอนุมัติ ก็จะส่งผลให้ไฟเซอร์สามารถใช้วัคซีนดังกล่าวในยุโรปก่อนปลายปีนี้

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน พุ่งขึ้นแตะระดับ 54.9 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 53.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 10 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 53.5


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ