ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกล็อกดาวน์เพิ่มในอังกฤษ-เยอรมนี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 6, 2021 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในอังกฤษและเยอรมนี และตลาดยังปรับตัวลงตามหุ้นสหรัฐท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเลือกตั้งวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจียด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.19% ปิดที่ 400.94 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,651.22 จุด ลดลง 75.52 จุด หรือ -0.55% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,564.60 จุด ลดลง 24.36 จุด หรือ -0.44% แต่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,612.25 จุด เพิ่มขึ้น 40.37 จุด หรือ +0.61%

ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมปรับตัวลง แต่ตลาดหุ้นอังกฤษสวนทางปิดบวกโดยได้แรงหนุนจากหุ้นเชลล์และหุ้นบีพี ซึ่งปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากการเจรจาที่ชะงักงันระหว่างผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการผลิตน้ำมันในเดือนก.พ.จะยังคงดำเนินต่อไป

นักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงเนื่องจากวิตกกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในอังกฤษ

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่แล้ว เพื่อควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นและกำลังคุกคามระบบสาธารณสุขของอังกฤษอย่างรุนแรงในขณะนี้ โดยคำสั่งดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ในทันที

นายจอห์นสันได้ออกแถลงการณ์ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศในวันจันทร์ (4 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า ขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และจะออกนอกบ้านได้ก็ต่อเมื่อต้องซื้ออาหารและของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องปิดทำการ นอกจากนี้ ร้านค้าที่ไม่จำเป็น และธุรกิจบริการที่พักอาศัยจะต้องปิดทำการเช่นกัน

ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลงด้วย เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า รัฐบาลเยอรมนีกำลังพิจารณาที่จะขยายมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีก 3 สัปดาห์ไปจนถึงสิ้นเดือนม.ค.เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลกับการเลือกตั้งวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจียของสหรัฐซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ หากพรรคเดโมแครตไม่ได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ

หุ้นกลุ่มปลอดภัยร่วงลงหนักสุดในตลาดหุ้นยุโรป อาทิ กลุ่มสาธารณูปโภค, กลุ่มเฮลธ์แคร์ รวมถึงกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ