ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานของสหรัฐที่อ่อนแอกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงของเยอรมนีถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดทรงตัวที่ระดับ 409.54
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,659.26 จุด เพิ่มขึ้น 50.72 จุด หรือ +0.90%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,056.72 จุด ลดลง 3.57 จุด, -0.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,489.33 จุด ลดลง 14.39 จุด หรือ -0.22%
ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 49,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง
ข้อมูลจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัว ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังถูกกดดันจากการที่เยอรมนีเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมลดลงเกินคาดในเดือนธ.ค. เนื่องจากการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ทำให้ประเทศอื่นๆ ในยูโรโซนสั่งซื้อสินค้าน้อยลงจากเยอรมนี
สำนักงานสถิติของรัฐบาลเยอรมนี (FSO) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับแต่เดือนเม.ย. และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลง 1% เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ฉุดอุปสงค์จากประเทศอื่นในยูโรโซน นอกจากนี้ กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรรมในประเทศ ปรับตัวลง 0.9% ในเดือนธ.ค. ขณะที่คำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ลดลง 2.6% และคำสั่งซื้อจากยูโรโซน ร่วงลง 7.5%
บรรดานักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของยุโรป
หุ้นซาโนฟี ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้น 1.5% หลังบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะทำกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นในปีนี้ หลังจากเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2563 ที่แข็งแกร่งเกินคาด