ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การจ้างงานในสหรัฐจะกลับมาขยายตัวได้เต็มที่อีกครั้งในปี 2565 หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ณ เวลา 10.10 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้น 183 จุด หรือ 0.59% แตะที่ 31,225 จุด
นางเยลเลนกล่าวให้สัมภาษณ์กับรายการ "State of the Union" ของสถานทีโทรทัศน์ CNN ว่า "ฉันเชื่อว่า หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส เราก็จะได้เห็นตัวเลขการจ้างงานกลับมาขยายตัวเต็มที่ในปีหน้า"
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังเชื่อมั่นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดนจะไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
"แม้รัฐมนตรีคลังคนก่อนเคยคาดการณ์ไว้ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้มีโอกาสที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น แต่สำหรับดิฉันซึ่งใช้เวลาหลายปีในการศึกษาเรื่องเงินเฟ้อ ดิฉันพบว่า เรามีเครื่องมือมากมายที่จะสามารถจัดการกับความเสี่ยงนี้ เศรษฐกิจของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ซึ่งเราต้องเร่งแก้ไขเรื่องนี้ก่อน เพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอยถือเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่กว่า" นางเยลเลนกล่าว
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างงบประมาณ ซึ่งจะเปิดทางให้พรรคเดโมแครตสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนผ่านสภาคองเกรสได้โดยไม่ต้องได้รับการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐคาดว่า กฎหมายเยียวยาผลกระทบของโรคโควิด-19 อาจจะผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสได้ก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดนั้น จะหมดอายุลง