ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งเกือบ 100 จุด ขานรับ "เยลเลน" เรียกร้องออกมาตรการกระตุ้นศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 19, 2021 21:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้ ขานรับการที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เรียกร้องให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่เพื่อผลักดันการฟื้นตัวของสหรัฐ

ณ เวลา 21.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 94 จุด หรือ 0.3% สู่ระดับ 31,525 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

ทางด้านนางเยลเลนกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงมีความจำเป็น แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในระยะนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว

นางเยลเลนกล่าวย้ำว่า การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จะช่วยให้การจ้างงานในสหรัฐกลับสู่ภาวะเต็มศักยภาพภายในเวลา 1 ปี

นอกจากนี้ นางเยลเลนระบุว่า อัตราเงินเฟ้อไม่ใช่ปัจจัยที่สร้างความกังวลมากนักในขณะนี้ เนื่องจากยังคงอยู่ในระดับต่ำ

นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ พรรคเดโมแครตประสบความสำเร็จในการผลักดันให้สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแบบ fast track โดยใช้แนวทางการจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า budget reconciliation ซึ่งจะปูทางให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสามารถให้การรับรองงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แทนที่จะใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 สำหรับการผ่านกฎหมายทั่วไป และทำให้ปธน.ไบเดนสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสจะสามารถลงมติให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาชาวสหรัฐและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ