ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะยังคงดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ต่อเนื่องจากวานนี้ที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ณ เวลา 19.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 101 จุด หรือ 0.31% สู่ระดับ 32,380 จุด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 32,000 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ หลังสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนก.พ.
ร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งมีชื่อว่า "American Rescue Plan Act of 2021" ครอบคลุมถึงการจัดสรรงบประมาณ 4 แสนล้านดอลลาร์เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวอเมริกันโดยตรงคนละ 1,400 ดอลลาร์, ให้เงินช่วยเหลือรัฐต่างๆ และรัฐบาลกลางในวงเงิน 3.50 แสนล้านดอลลาร์, จัดสรรเงินทุนเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และขยายเวลาของโครงการช่วยเหลือคนตกงานสัปดาห์ละ 300 ดอลลาร์ออกไปจนถึงเดือนก.ย.ปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้นเพียง 0.1% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.3% ในเดือนก.พ. หลังจากดีดตัวขึ้น 1.4% ในเดือนม.ค.
ข้อมูล CPI ล่าสุดช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ และยังเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 1.525% เมื่อคืนนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1.5% ในวันนี้ ก่อนการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 725,000 ราย
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค. เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ