ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 100 จุด ส่งสัญญาณวอลล์สตรีททำนิวไฮต่อจากวันศุกร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 15, 2021 18:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากวันศุกร์

ณ เวลา 18.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 118 จุด หรือ 0.36% สู่ระดับ 32,783 จุด

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทำการปรับเวลาซื้อ-ขายหุ้นในวันนี้ โดยจะปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง เนื่องจากเข้าสู่ช่วง Daylight Saving Time

ทั้งนี้ ตลาดจะเปลี่ยนแปลงเวลาซื้อขาย จากเดิม 21:30-04:05 น. ตามเวลาไทย เป็น 20:30-03:05 น.ตามเวลาไทย

การปรับเวลาตาม Daylight Saving Time ในสหรัฐปีนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม-7 พฤศจิกายน 2564

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 300 จุดเมื่อวันศุกร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน

หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน ต่างดีดตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวในวันนี้ หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อวันศุกร์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 1.642% เมื่อวันศุกร์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563 หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมกับแถลงว่าเขาจะทำให้ชาวอเมริกันทุกคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ภายในวันที่ 1 พ.ค.

มีการคาดการณ์กันว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวจะทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวมากขึ้นจากการใช้จ่ายงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลสหรัฐ

นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังดีดตัวขึ้นขานรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ต่ำกว่าคาด รวมทั้งการที่สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี

ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้เป็นปัจจัยผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งทะลุระดับ 1.6% แตะระดับสูงสุดในปีนี้เมื่อช่วงต้นเดือนมี.ค. หลังจากอยู่ต่ำกว่า 1% ในช่วงต้นปีนี้

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ