ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะพักฐานในคืนนี้ หลังจากพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 6 วานนี้
ณ เวลา 19.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 2 จุด หรือ 0.01% สู่ระดับ 32,852 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเกือบ 200 จุดเมื่อคืนนี้ ทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 7 วัน ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2563 โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก้ดี นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่จะตามมาจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันนี้และพรุ่งนี้ เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวยอมรับว่าอาจมีความเสี่ยงเล็กน้อยที่จะเกิดเงินเฟ้อจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
"ใช่ มีความเสี่ยงเล็กน้อยที่จะเกิดเงินเฟ้อ ซึ่งเรากำลังจับตาดูอยู่ โดยการลงทุนทางเศรษฐกิจใดๆก็ตาม จะทำให้เกิดความเสี่ยงในบางด้านเสมอ แต่ความเสี่ยงที่ใหญ่กว่านั้นคือ การที่เราไม่ได้ทำในสิ่งที่เพียงพอเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ" นางเซซิเลีย เราส์ ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์