ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก ขานรับบอนด์ยีลด์ชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 19, 2021 18:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะฟื้นตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ณ เวลา 18.29 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 52 จุด หรือ 0.16% สู่ระดับ 32,817 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 0.5% เมื่อคืนนี้ โดยถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในยุโรป ซึ่งทำให้บางประเทศต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.74% เมื่อวานนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2.5% แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าเฟดไม่มีแผนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ และยังไม่มีแผนปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ขณะเดียวกัน เฟดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานแตะระดับ 2.2% ในปีนี้ โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่าเฟดพร้อมที่จะปล่อยให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น หากสิ่งนี้ช่วยหนุนการจ้างงานในสหรัฐ

นายจิม แครอน ผู้จัดการพอร์ทโฟลิโอตราสารหนี้โลกของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล และเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

"ความเชื่อมั่นของนักลงทุนมาจากการที่รัฐต่างๆกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ขณะที่ชาวอเมริกันรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งทำให้อัตราการติดเชื้อลดลง นอกจากนี้ เม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการช่วยเหลือการจ้างงาน ก็ได้เป็นปัจจัยทำให้ผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่าย และมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น" นายแครอนกล่าว

นายแครอนกล่าวว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไม่ได้เป็นสิ่งที่แสดงถึงภาวะตึงตัวทางการเงิน และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อรุนแรงตามที่มีความกังวลในตลาด

ทางด้านนายไมเคิล สเปนเซอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของดอยซ์แบงก์ กล่าวว่า "ทุกคนมีความเชื่อมั่นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเราเชื่อว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 7.5% ในปีนี้"

นายสเปนเซอร์ยังกล่าวว่า "เป็นเรื่องปกติที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวจะดีดตัวขึ้น และเราคาดว่าในช่วงปลายปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.25% หรือสูงกว่านั้น"

อย่างไรก็ดี สถาบันวิจัยเนด เดวิสคาดการณ์ว่า ดัชนี Nasdaq ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจำนวนมาก จะทรุดตัวลงอีก 20% หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับ 2%

ผลสำรวจของแบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุว่า บรรดาผู้จัดการกองทุนมีความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงจากเงินเฟ้อมากที่สุด ตามมาด้วยการที่เฟดอาจปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 ร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 3

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 2% จะส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททรุดตัวลงมากกว่า 10% และหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะ 2.5% จะทำให้นักลงทุนถอนตัวออกจากตลาดหุ้นเพื่อเข้าลงทุนในตลาดพันธบัตร เนื่องจากมีความน่าดึงดูดมากกว่า

ปัจจัยความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 หลุดจากอันดับ 1 เป็นครั้งแรกในเดือนมี.ค. หลังจากที่ครองอันดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากขณะนี้สหรัฐมีการฉีดวัคซีนในวงกว้าง ส่งผลให้จำนวนผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และจำนวนผู้เสียชีวิตลดต่ำลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ