ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ในฝรั่งเศสเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เป็นไปอย่างล่าช้าในบางประเทศ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวลง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 423.35 จุด ลดลง 3.24 จุด หรือ -0.76%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,997.96 จุด ลดลง 64.83 จุด หรือ -1.07%, ดัชนี DAX ปิดที่ 14,621.00 จุด ลดลง 154.52 จุด หรือ -1.05% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,708.71 จุด ลดลง 70.97 จุด หรือ -1.05%
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง หลังการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เป็นเวลา 4 สัปดาห์ใน 16 แคว้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ความล่าช้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กดดันตลาดหุ้นยุโรปด้วย โดยอังกฤษเปิดเผยว่าต้องชะลอการฉีดวัคซีนในเดือนหน้า เนื่องจากมีปัญหาด้านการขนส่งวัคซีนล่าช้า
หุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มธนาคารปรับตัวลง โดยกลุ่มธนาคารร่วงตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในสหรัฐ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าจะไม่ต่ออายุโครงการผ่อนคลายด้านเงินทุนของธนาคารพาณิชย์ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค.นี้
หุ้นอาดิดาสและหุ้นพูม่าของเยอรมนี ร่วงลงมากกว่า 2% หลังบริษัทไนกี้ของสหรัฐเปิดเผยคาดการณ์รายได้ทั้งปีต่ำกว่าคาด