ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่ารัฐบาลจีนจะควบคุมเศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวร้อนแรงเกินไป นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,367.06 จุด ลดลง 44.45 จุด หรือ -1.30%
ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) หรือ "ฉวนกั๋วเหรินต้า" ชุดที่ 13 ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศกำหนดเป้าหมายตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับปี 2564 ที่ระดับสูงกว่า 6%
อย่างไรก็ดี นักลงทุนมองว่า เป้าหมายดังกล่าวยังต่ำเกินไป ซึ่งอาจบ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนต้องการควบคุมเศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวมากเกินไปในปีนี้
นักลงทุนกำลังจับตาท่าทีของธนาคารกลางจีนอย่างใกล้ชิดว่าจะใช้นโยบายควบคุมสภาพล่องในปีนี้หรือไม่ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางจีนได้เรียกร้องให้มีการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก
ทางด้านนายเชง ซ่งเฉิง อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสถิติและการวิเคราะห์ของธนาคารกลางจีนเตือนว่า จีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับความเสียหายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หากรัฐบาลพยายามที่จะควบคุมภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ผ่านการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด
นายเชงกล่าวว่า การกำกับดูแลตลาดอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อลดการเก็งกำไรในสินทรัพย์ทางการเงิน ถือเป็นแนวทางที่ดีกว่าการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน