ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวเกินคาดในเดือนมี.ค. ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรปยังคงถ่วงตลาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 423.39 จุด เพิ่มขึ้น 0.08 จุด หรือ +0.02%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,947.29 จุด เพิ่มขึ้น 1.99 จุด หรือ +0.03% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,712.89 จุด เพิ่มขึ้น 13.70 จุด หรือ +0.20% ขณะที่ดัชนี DAX ปิดที่ 14,610.39 จุด ลดลง 51.63 จุด หรือ -0.35%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนหลังจากไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซน ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 52.5 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 48.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัว
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจยังบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยูโรโซนฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ -10.8 ในเดือนมี.ค. จากระดับ -14.8 ในเดือนก.พ.
แต่ความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 และมาตรการล็อกดาวน์ในยุโรป รวมถึงความล่าช้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้น ยังคงเป็นปัจจัยลบที่ถ่วงตลาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย
หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ของเยอรมนี บวก 1.6% แม้ธนาคารคาดว่า จะมียอดขาดทุนสุทธิในปีนี้
หุ้นกลุ่มชิปปรับตัวขึ้นอย่างมาก โดยหุ้นเอเอสเอ็ม อินเตอร์เนชันแนล, หุ้นเอเอสเอ็มแอล และหุ้นอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ บวกขึ้น 0.3-5.2% หลังบริษัทอินเทล คอร์ปของสหรัฐประกาศแผนวงเงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะขยายกำลังการผลิตชิป
หุ้นคาร์ฟูร์ของฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้น 2.3% หลังตกลงซื้อ Grupo BIG บริษัทค้าปลีกอาหารรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของบราซิล เป็นมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์