ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) และยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ และอัตราการฉีดวัคซีนที่ชะลอตัวลงในบางประเทศ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนมี.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 434.32 จุด ลดลง 0.94 จุด หรือ -0.22%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,130.66 จุด ลดลง 0.68 จุด หรือ -0.01% และดัชนี DAX ปิดที่ 15,176.36 จุด ลดลง 36.32 จุด หรือ -0.24% ส่วนดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,885.32 จุด เพิ่มขึ้น 61.77 จุด หรือ +0.91%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เข้าทดสอบเมื่อวันอังคารที่ 435.26 จุด โดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์นำตลาดร่วงลง 0.8%
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ลดลง 1.17% หลังมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดประกาศว่า ได้ยุติการทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าที่จะใช้กับเด็กและวัยรุ่น หลังสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) ระบุว่า มีความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้ากับอาการลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดกับผู้ใหญ่ที่ฉีดวัคซีนดังกล่าว