ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความหวังที่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แม้มีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในยูโรโซนก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 437.23 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด หรือ +0.09%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,169.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.69 จุด หรือ +0.06%, ดัชนี DAX ปิดที่ 15,234.16 จุด เพิ่มขึ้น 31.48 จุด หรือ +0.21% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,915.75 จุด ลดลง 26.47 จุด หรือ -0.38%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ต่อเนื่องนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2562 ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลกได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันที่จะคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป แม้เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้วก็ตาม
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ในสัปดาห์นี้ แม้โครงการฉีดวัคซีนในยุโรปได้รับผลกระทบจากการที่สำนักงานยาแห่งยุโรปเปิดเผยว่า พบความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กับภาวะลิ่มเลือดในสมองอุดตัน แม้เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากก็ตาม
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่ง Refinitiv IBES ประมาณการว่า บริษัทในดัชนี S&P500 จะมีกำไรพุ่งขึ้น 25% ในไตรมาสแรกของปีนี้
หุ้นแอร์บัส เพิ่มขึ้น 0.3% หลังรายงานว่า มีการส่งมอบเครื่องบินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสแรก