ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 53.62 จุด หุ้นแบงก์พุ่งขานรับผลประกอบการแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 15, 2021 06:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารขนาดใหญ่ แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลง แม้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดของวันครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์ก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,730.89 จุด เพิ่มขึ้น 53.62 จุด หรือ +0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,124.66 จุด ลดลง 16.93 จุด หรือ -0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,857.84 จุด ลดลง 138.26 จุด หรือ -0.99%

ดัชนีดาวโจนส์ได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารรายใหญ่ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่ง 2.34% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่ง 5.61% หลังธนาคารดังกล่าวเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกพุ่งขึ้นอย่างมาก

แต่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลดลง 1.85% แม้เปิดเผยผลประกอบการพุ่งขึ้นเกือบ 400% ก็ตาม

หุ้นกลุ่มพลังงานในดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นมากที่สุดใน 11 กลุ่ม โดยปรับตัวตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นด้วย

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถ่วงดัชนี Nasdaq ลดลง โดยหุ้นแอปเปิล ลบ 1.79%, หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.12% และหุ้นเทสลา ร่วงลง 3.95%

ส่วนหุ้นคอยน์เบส โกลบอล อิงค์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ร่วงลง 13.84% ในการซื้อขายวันแรกที่ตลาด Nasdaq โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้นถึง 381 ดอลลาร์ จากราคา IPO ที่ 250 ดอลลาร์

หุ้นของบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเงินคริปโตเคอเรนซีและบล็อกเชน อาทิ ไรออต บล็อกเชน ร่วง 15.6% และหุ้นมาราธอน ดิจิทัล โฮลดิงส์ ร่วง 15.75% หลังพุ่งขึ้นก่อนหุ้นคอยน์เบสเข้าตลาด และขณะที่สกุลเงินบิตคอยน์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 63,000 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

บรรดานักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเขาได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตันเมื่อคืนนี้ว่า เฟดจะดำเนินการทีละขั้นตอนเพื่อลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงด้วยการปรับลดการซื้อพันธบัตรรายเดือน ก่อนที่เฟดจะพิจารณาถึงเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนมี.ค. โดยเพิ่มขึ้น 1.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าอาจเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนีราคาส่งออก เพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนก.พ.

ด้านสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนอง ลดลง 3.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง, จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ ลดลง 5% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว, จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัย ลดลง 1% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่พุ่งขึ้น 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปีสำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 510,400 ดอลลาร์ ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.27% จากระดับ 3.36% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ