ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) วางแผนที่จะผ่อนคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับการควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 439.92 จุด เพิ่มขึ้น 2.53 จุด หรือ +0.58%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,307.90 จุด เพิ่มขึ้น 38.42 จุด หรือ +0.61% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,236.47 จุด เพิ่มขึ้น 100.56 จุด หรือ +0.66%
ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการเมื่อวานนี้ เนื่องในวันหยุดธนาคารในช่วงต้นเดือนพ.ค.
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยไอเอชเอส มาร์กิตซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 62.9 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในเดือนมิ.ย.2540 จากระดับ 62.5 ในเดือนมี.ค. ขณะที่ยอดค้าปลีกของเยอรมนีเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดในเดือนมี.ค.นับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในปีที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการปรับตัวขึ้น 0.2% หลังคณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำให้ทำการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศต่างๆ จำนวนมากขึ้นเข้าสู่ยูโรโซน ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในฤดูร้อนนี้
ความคืบหน้าของโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในยุโรป และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้ช่วยเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทเกือบครึ่งหนึ่งในดัชนี STOXX 600 รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่ง 75% รายงานผลกำไรสูงเกินคาด
หุ้นซีเมนส์ เฮลธิเนียร์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายและผลกำไรในปีนี้
หุ้นลุฟต์ฮันซา พุ่งขึ้น 2.6% หลังเปิดเผยว่าบริษัทวางแผนที่จะให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวมากกว่า 100 แห่ง
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างเบาบาง เนื่องจากตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการ เนื่องในวันหยุดธนาคารช่วงต้นเดือนพ.ค.