ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ แรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนฯฉุดตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรตามหุ้นกลุ่มเดียวกันที่ร่วงลงในตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 433.65 จุด ลดลง 6.27 จุด หรือ -1.43%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,251.75 จุด ลดลง 56.15 จุด หรือ -0.89%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,856.48 จุด ลดลง 379.99 จุด หรือ -2.49% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,923.17 จุด ลดลง 46.64 จุดหรือ -0.67%

บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงจากแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งดิ่งลง 3.8%

นักลงทุนเทขายทำกำไร เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอยู่ใกล้ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ หลังการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลงหนักที่สุดในยุโรป เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีสัดส่วนสูงในตลาด

หุ้นอินฟิเนียน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปของเยอรมนี ร่วงลง 5.9% หลังบริษัทคาดว่า ภาวะชิปตึงตัวในอุตสาหกรรมรถยนต์จะบรรเทาลงในช่วงครึ่งปีหลัง และปริมาณชิปมีแนวโน้มฟื้นตัวในปีหน้า

หุ้นกลุ่มรถยนต์ของยุโรป ร่วงลง 3.2% แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากราคาทรัพยากรที่แข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นอย่างมากหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศที่พัฒนาแล้ว และมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่

หุ้นบางตัวพุ่งขึ้นขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง อาทิ หุ้นแพนโดรา ผู้ผลิตเครื่องประดับของเดนมาร์ก พุ่งขึ้น 6.0% หลังรายงานผลกำไรรายไตรมาสสูงเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากยอดขายออนไลน์ที่แข็งแกร่ง และแผนการขยายธุรกิจในสหรัฐและจีน