ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน วิตกโควิด-เมินขุนคลังสหรัฐแก้ข่าวขึ้นดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน ขณะที่การซื้อขายบางเบา เนื่องจากตลาดบางส่วนในภูมิภาคปิดทำการ ประกอบกับนักลงทุนซึมซับข่าวที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐแสดงความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งฉุดให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยร่วงลงจากแรงเทขาย ก่อนที่นางเยลเลนจะแก้ข่าวในเวลาต่อมา นอกจากนี้ สถานการณ์โควิด-19 ในภูมิภาคยังคงสร้างความกังวลแก่นักลงทุน

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,559.80 จุด เพิ่มขึ้น 2.66 จุด หรือ +0.01%

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (5 พ.ค.) เนื่องในวันเด็ก ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน

ทั้งนี้ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า เธอไม่ได้คาดการณ์หรือให้คำแนะนำว่าควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่บทสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ของเธอส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเมื่อคืนนี้

ในช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาสหรัฐ นางเยลเลนเปิดเผยในงานสัมมนาของนิตยสารดิแอตแลนติกว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐร้อนแรงเกินไป อันเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ โดยถ้อยคำดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งได้ฉุดดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 1.8%

นางเยลเลนได้ออกมาชี้แจงผ่านทางวอลล์สตรีท เจอร์นัลในเวลาต่อมาว่า "ดิฉันไม่ได้คาดการณ์ หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากใครสักคนจะให้ความเคารพในความเป็นองค์กรอิสระของเฟด คนๆนั้นก็คือ ดิฉันเอง" ทั้งนี้ นางเยลเลนซึ่งเป็นอดีตประธานเฟดด้วยนั้นกล่าวว่า เธอไม่ได้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นเป็นเวลานาน แต่หากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เธอก็เชื่อว่าเฟดมีเครื่องมือที่จัดการกับเรื่องดังกล่าว

นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในอินเดีย ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 5 พ.ค. ระบุว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อินเดียพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่อยู่ที่ 382,315 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 20.66 ล้านรายแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นอยู่ที่ 3,780 ราย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 226,188 ราย