ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากที่การซื้อขายเมื่อวานนี้ถูกกดดันจากการแสดงความเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ
ณ เวลา 17.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 104 จุด หรือ 0.31% สู่ระดับ 34,124 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงเกือบ 2% เนื่องนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากนางเยลเลนกล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐร้อนแรงเกินไป อันเป็นผลจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ
อย่างไรก็ดี นางเยลเลนกล่าวชี้แจงในเวลาต่อมาว่า ตนไม่ได้คาดการณ์หรือให้คำแนะนำว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่คำกล่าวก่อนหน้านี้ของนางเยลเลนส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงวานนี้
การพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ในวันนี้ได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการคาดการณ์ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่แข็งแกร่งในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนเม.ย.ในวันนี้เวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ADP จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 800,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
ก่อนหน้านี้ ADP เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2563 หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 176,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.
การจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนมี.ค.ได้รับแรงหนุนจากการที่ภาคธุรกิจคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัว หลังมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง ส่งผลให้ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่ภาคการผลิตและก่อสร้างปรับตัวขึ้นเช่นกัน