ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 22.41 จุด กังวลสัมพันธ์จีน-สหรัฐตึงเครียด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 7, 2021 14:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนในวันนี้ด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,418.87 จุด ลดลง 22.41 จุด หรือ -0.65%

ตลาดหุ้นจีนปิดอ่อนแรงลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายงานระบุว่านางแคทเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) จะเจรจากับเจ้าหน้าที่จีนในเร็วๆนี้ เพื่อประเมินผลการดำเนินงานตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสองประเทศ ซึ่งผลการประเมินจะส่งผลต่อท่าทีของสหรัฐในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ประกาศระงับการเจรจาเชิงกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและออสเตรเลีย (China-Australia Strategic Economic Dialogue) อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างรัฐบาลจีนและรัฐบาลออสเตรเลีย

ความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจของจีนในวันนี้ โดยไฉซิน/มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.ของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 56.3 จากระดับ 54.3 ในเดือนมี.ค. โดยได้แรงหนุนจากกิจกรรมทางธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่จีนประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทางด้านสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 32.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 2.6392 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 24.1% และดีกว่าในเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 30.6% ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ส่วนยอดนำเข้าในเดือนเม.ย.ทะยานขึ้น 43.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2554 และดีกว่าในเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 38.1% นอกจากนี้ ยอดนำเข้าเดือนเม.ย.ยังแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้น 42.5%

ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 4.285 หมื่นล้านอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.81 หมื่นล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ