ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 19.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 170 จุด หรือ 0.5% สู่ระดับ 34,148 จุด
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ลบ 1.1%, ดัชนี S&P 500 ลบ 1.4% และดัชนี Nasdaq ลบ 2.3% โดยดัชนีทั้ง 3 ดิ่งลงเทียบรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ วอลมาร์ท อิงค์, โฮม ดีโปท์ และเมซีส์ ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ภาวะการใช้จ่ายของผู้บริโภค ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะนี้ บริษัทมากกว่า 90% ในดัชนี S&P 500 ได้เสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 1 แล้ว โดยมีจำนวน 86% ที่รายงานตัวเลขกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่สูงเกินคาด ซึ่งเป็นตัวเลขสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ FactSet เริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2551
นอกจากนี้ ตลาดจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 27-28 เม.ย.ที่จะมีการเผยแพร่ในวันพุธ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด