ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 ในคืนนี้
นักลงทุนกังวลว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน
ณ เวลา 18.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 116 จุด หรือ 0.34% สู่ระดับ 33,715 จุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างปรับตัวลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 0.5% เมื่อคืนนี้ หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และเสนอให้เริ่มอภิปรายเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชน หลังราคาบิตคอยน์ทรุดตัวลงจากข่าวที่ว่ารัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.