ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ นลท.วิตกเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของเยอรมนีที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ขณะที่การซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างเบาบาง เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและอังกฤษปิดทำการเนื่องในวันหยุด อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วนั้นได้ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกได้ในเดือนพ.ค.เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 446.76 จุด ลดลง 2.22 จุด หรือ -0.49%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,447.17 จุด ลดลง 36.94 จุด หรือ -0.57% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,421.13 จุด ลดลง 98.85 จุด หรือ -0.64%

ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการวันจันทร์ที่ 31 พ.ค. เนื่องในวัน Spring Bank Holiday

ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 2.4% และเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ราคาผู้บริโภคเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 0.5% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 0.3% ขณะที่เป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางยุโรป (ECB) นั้นอยู่ใกล้เคียงแต่ต่ำกว่าระดับ 2%

หุ้นดอยซ์ แบงก์ ร่วง 1.3% หลังวอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐได้ระบุว่า ดอยซ์ แบงก์ยังไม่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างต่อเนื่องในการควบคุมการต่อต้านการฟอกเงิน

แต่ตลาดหุ้นยุโรปบวกขึ้นได้ 2.1% ในเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการที่ประเทศต่างๆ เริ่มเปิดเศรษฐกิจหลังล็อกดาวน์ และธนาคารกลางต่างๆ ยังยืนยันที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ความเห็นของผู้กำหนดนโยบายของ ECB รวมถึงนางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ที่ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะหารือเกี่ยวกับการชะลอโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉิน (PEPP) นั้น ได้ช่วยหนุนตลาด