ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยวานนี้
ณ เวลา 19.31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 111 จุด หรือ 0.33% สู่ระดับ 33,794 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 265.66 จุด หรือ 0.77% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวล หลังจากเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เปิดเผยว่า กรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ทั้งนี้ เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าคาดการณ์เดิมถึง 1 ปี และเฟดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566
นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้สู่ระดับ 3.4% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 2.4%
ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
หุ้นกลุ่ม Materials ปรับตัวลงเช่นกัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ยังถูกกดดันจากการที่จีนเตรียมระบายสต็อกโลหะ ซึ่งรวมถึงทองแดง อะลูมิเนียม และสังกะสี จากคลังสำรองแห่งชาติเพื่อสกัดราคาที่พุ่งขึ้นในประเทศ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี และข่าวนี้ส่งผลให้ราคาสัญญาทองแดงดิ่งลง 2% ในวันนี้
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ ขานรับความหวังที่ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากช่วยหนุนตัวเลขกำไรในภาคธนาคาร