ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ หลังจากที่จีนเปิดเผยยอดค้าปลีกชะลอตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ณ เวลา 20.15 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 121 จุด หรือ 0.34% สู่ระดับ 35,299 จุด
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ต่างร่วงลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด
ทั้งนี้ จีนเปิดเผยว่ายอดค้าปลีกในเดือนก.ค.ขยายตัวเพียง 8.5% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 11.5% และต่ำกว่าระดับ 12.1% ของเดือนมิ.ย.
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่า เศรษฐกิจจีนยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งภัยพิบัติจากน้ำท่วม ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไร้เสถียรภาพ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจทำการประกาศในเดือนหน้าเกี่ยวกับไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะเริ่มทำการปรับลด QE ในเดือนต.ค.
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว พบว่า 87% มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่บริษัท FactSet เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2551