ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากดิ่งลงกว่า 200 จุดวานนี้
ณ เวลา 20.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,164.55 จุด บวก 64.55 จุด หรือ 0.18%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 269.09 จุด หรือ 0.76% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐ หรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันนี้ รวมทั้งการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่
ราคาหุ้นแอปเปิล อิงค์ปรับตัวลง 0.6% ในวันนี้ หลังจากพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 157.26 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ขานรับข่าวการจัดอีเวนต์เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในวันที่ 14 ก.ย.เวลา 22.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 15 ก.ย.ตามเวลาไทย
คาดว่าแอปเปิลจะตั้งชื่อ iPhone รุ่นใหม่ว่า iPhone 13 โดยจะมี 4 รุ่นคือ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ซึ่งจะมีการใช้เทคโนโลยีสื่อสารผ่านระบบดาวเทียมในการส่งข้อความในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากผู้ใช้มือถืออยู่ในสถานที่ซึ่งไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
นอกจากนี้ แอปเปิลจะเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องและชิป 5G ใน iPhone 13 รวมทั้งแบตที่อึดขึ้น และหน้าจอที่มี refresh rate ที่ดีขึ้นสำหรับคอเกม
คาดว่าแอปเปิลจะเริ่มเปิดรับ pre-order ของ iPhone 13 สำหรับประเทศในกลุ่ม tier-1 ซึ่งรวมถึง สหรัฐ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย จีน และญี่ปุ่น ในวันที่ 17 ก.ย. และเริ่มวางจำหน่ายในแอปเปิลสโตร์ในวันที่ 24 ก.ย.
ขณะเดียวกัน แอปเปิลเตรียมเปิดตัว Apple Watch Series 7 และ AirPods 3 ในวันที่ 14 ก.ย.เช่นกัน