ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ จากแรงขายทำกำไร

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ และนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ของจีน รวมถึงการเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่อ่อนแอของเยอรมนี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 463.29 จุด ลดลง 4.21 จุด หรือ -0.90%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,638.46 จุด ลดลง 63.52 จุด หรือ -0.95%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,531.75 จุด ลดลง 112.22 จุด หรือ -0.72% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,051.48 จุด ลดลง 26.87 จุด หรือ -0.38%

ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน ได้ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 2 งวดที่มีกำหนดชำระในวันที่ 23 ก.ย.

นอกจากนี้ การเปิดเผยผลสำรวจของสถาบัน Ifo ที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.ย.นั้น ส่งผลกดดันตลาดด้วย

ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มปิดลบในเดือนก.ย. หลังบวกติดต่อกัน 7 เดือน โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ขณะที่ธนาคารกลางต่าง ๆ วางแผนที่จะปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

หุ้นกลุ่มผลิตชุดกีฬาของยุโรป อาทิ อาดิดาส, พูม่า และเจดี สปอร์ต ร่วงลงราว 3% หลังบริษัทไนกี้ของสหรัฐปรับลดคาดการณ์ยอดขายในปี 2565 โดยระบุถึงผลกระทบด้านห่วงโซ่อุปทาน

หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงหนัก 1.7%

ส่วนหุ้นแอสตร้าเซนเนก้าของอังกฤษ พุ่งขึ้น 2% หลังเปิดเผยว่ายา Lynparza ซึ่งเป็นยารักษาโรคมะเร็งบรรลุเป้าหมายในการทดลองขั้นสุดท้าย

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคของอิตาลีปรับตัวขึ้น หลังรัฐบาลกันเงินมากกว่า 3 พันล้านยูโร (3.5 พันล้านดอลลาร์) เพื่อควบคุมค่าพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก