ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกจ้างงานสหรัฐต่ำกว่าคาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐหลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ต่ำกว่าคาด แต่ตลาดยุโรปปิดบวกสูงสุดในสัปดาห์นี้ในรอบ 2 เดือนหลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 457.29 จุด ลดลง 1.28 จุด หรือ -0.28%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,559.99 จุด ลดลง 40.20 จุด หรือ -0.61%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,206.13 จุด ลดลง 44.73 จุด หรือ -0.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,095.55 จุด เพิ่มขึ้น 17.51 จุด หรือ +0.25%

ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 500,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 366,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

อย่างไรก็ดี อัตราการว่างงานในเดือนก.ย.ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 โดยลดลงจากระดับ 5.2% ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.1%

หุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 1.4% หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น ซึ่งลดความน่าดึงดูดของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น 1% ในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ หลังจากสามารถปรับเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราว และตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดพลังงานตึงตัว

หุ้นกลุ่มเดินทางของอังกฤษปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้น IAG เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ และหุ้นไรอันแอร์ ขานรับอังกฤษยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจาก 47 ประเทศ

หุ้นกลุ่มรถยนต์ เพิ่มขึ้น 1.3% โดยหุ้นเดมเลอร์ พุ่ง 2.6% หลังยูบีเอสปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนเป็น "ซื้อ" จาก "คงน้ำหนักการลงทุน" และปรับเพิ่มเป้าหมายราคาสู่ระดับ 100 ยูโร จาก 79 ยูโร