ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากทรุดตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 นั้น จะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน แม้มีสัญญาณเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 465.92 จุด เพิ่มขึ้น 5.53 จุด หรือ +1.20%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,685.21 จุด เพิ่มขึ้น 87.83 จุด หรือ +1.33%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,462.72 จุด เพิ่มขึ้น 213.34 จุด หรือ +1.40% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,207.71 จุด เพิ่มขึ้น 65.89 จุด หรือ +0.92%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าผลกำไรไตรมาส 3 ของบริษัทในดัชนี STOXX 600 จะเพิ่มขึ้น 46.7% จากปีที่แล้ว
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นด้วย
หุ้นบริษัทผลิตชิปของยุโรป อาทิ ASML, Infineon และ BE Semiconductor ปรับตัวขึ้นตามกัน หลัง TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวันเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 13.8% เนื่องจากอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์ขยายตัว
หุ้น Publicis ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 2.7% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ ขณะที่หุ้น WPP ของอังกฤษ ปรับตัวขึ้น 0.5%