ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ณ เวลา 21.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,661.05 จุด ลบ 152.75 จุด หรือ 0.43%
ราคาหุ้นแก๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องแต่งกายรายใหญ่ของสหรัฐ และหุ้นนอร์ดสตรอม ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ต่างทรุดตัวลงในวันนี้ หลังเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐก็ได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ร่วงลงในวันนี้
สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำสุดในรอบกว่า 50 ปีในวันนี้ ขณะที่มีการปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2564 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 71,000 ราย สู่ระดับ 199,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.2512
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 260,000 ราย และปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 60,000 ราย สู่ระดับ 2.05 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนมี.ค.2563
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2564 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.1% โดยสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งแรกที่ระดับ 2.0% แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.2%
ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 6.7% ในไตรมาส 2 และ 6.3% ในไตรมาส 1
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 2-3 พ.ย.ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้
คาดว่าการซื้อขายจะเป็นไปอย่างซบเซา ก่อนที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และจะเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์