ดาวโจนส์พุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด ขานรับ "ไบเดน" ยันไม่ล็อกดาวน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 30, 2021 00:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวว่า สหรัฐไม่มีแผนล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังได้หลากหลายปัจจัยบวกที่เข้าหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนพากันส่งแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดทรุดตัวลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว

ณ เวลา 00.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,239.39 จุด บวก 340.05 จุด หรือ 0.97%

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวในวันนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐไม่มีนโยบายที่จะประกาศล็อกดาวน์เศรษฐกิจ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

"ถ้าประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน และสวมหน้ากากอนามัย ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องล็อกดาวน์ และจะไม่มีการประกาศห้ามการเดินทางครั้งใหม่" ปธน.ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าววันนี้

"ไม่ช้าก็เร็ว เราจะเห็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในสหรัฐ ดังนั้นกรุณาสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในอาคาร หรืออยู่ในที่สาธารณะ ซึ่งมีผู้คนจำนวนมาก" ปธน.ไบเดนกล่าว

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน และกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ ต่างพุ่งขึ้นในการซื้อขายวันนี้ ขานรับแถลงการณ์ของปธน.ไบเดน

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นในวันนี้ สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นกว่า 5%

ราคาหุ้นทวิตเตอร์ อิงค์พุ่งขึ้น หลังจากที่นายแจ็ค ดอร์ซีย์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท

ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังมีการระบาดของไวรัสโอไมครอน

FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดมีแนวโน้มเพียง 58.5% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย.2565 จากเดิมที่คาดว่ามีแนวโน้มสูงถึง 82.1%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ปรับลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ค.2565 เหลือเพียง 69% จากเดิมที่ระดับ 88% และลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.2565 เหลือ 79.7% จากเดิม 94.5% รวมทั้งลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2565 เหลือ 92% จากเดิม 99%

นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ไวรัสโอไมครอนจะส่งผลกระทบเพียงชั่วคราวต่อตลาด ขณะที่บริษัทผลิตวัคซีนต่างเร่งพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่ที่จะสามารถรับมือกับไวรัสโอไมครอน โดยคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในต้นปีหน้า

นักลงทุนยังขานรับคาดการณ์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งในวันศุกร์นี้ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 581,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 450,000 ตำแหน่ง จากระดับ 312,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.6% โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.8% ในเดือนก.ย.

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 7.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะทรงตัวในเดือนต.ค.

การทำสัญญาขายบ้านดีดตัวขึ้นในทุกภูมิภาค แม้ราคาบ้านอยู่ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนีปรับตัวลง 1.4% ในเดือนต.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เป็นมาตรวัดจำนวนสัญญาซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย และโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนสำหรับการเซ็นสัญญาจนกระทั่งปิดการขาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ