ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 236.60 จุด รับไบเดนยืนยันไม่ล็อกดาวน์เศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 30, 2021 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนยืนยันว่า สหรัฐไม่มีแผนล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,135.94 จุด เพิ่มขึ้น 236.60 จุด หรือ +0.68%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,655.27 จุด เพิ่มขึ้น 60.65 จุด หรือ +1.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,782.83 จุด เพิ่มขึ้น 291.18 จุด หรือ +1.88%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากปธน.ไบเดนออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐไม่มีนโยบายที่จะประกาศล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน โดยยืนยันว่า หากประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัย ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องล็อกดาวน์ และจะไม่มีการประกาศห้ามการเดินทางครั้งใหม่

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 โดยปรับตัวขึ้น 2.6% นำโดยหุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.35% หุ้นแอมะซอน เพิ่มขึ้น 1.63% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ดีดขึ้น 1.47% หุ้นไมโครอซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 2.19%

หุ้นโมเดอร์นา ทะยานขึ้น 11.80% หลังจากดร.พอล เบอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการแพทย์ของโมเดอร์นาประกาศว่า บริษัทจะสามารถพัฒนาวัคซีนสูตรปรับปรุงใหม่เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้อย่างเร็วที่สุดภายในต้นปีหน้า

หุ้นไบออนเทค พุ่งขึ้น 4.17% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวขึ้น 0.35% หลังจากทั้งสองบริษัทประกาศเริ่มพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นการเฉพาะ

อย่างไรก็ดี หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ร่วงลง 5.39% หลังจากเมอร์คเปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับผลการทดลองยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ซึ่งเมอร์คพัฒนาขึ้นร่วมกับบริษัทริดจ์แบ็ค ไบโอเทราพิวติกส์ โดยพบว่ายาดังกล่าวลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้น้อยกว่าที่เคยประกาศไว้ในผลการทดลองเบื้องต้น

หุ้นทวิตเตอร์ ร่วงลง 2.66% หลังจากนายแจ็ค ดอร์ซีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทวิตเตอร์ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้ นายดอร์ซีย์รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทั้งบริษัททวิตเตอร์ และบริษัทสแควร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทในธุรกิจชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลของนายดอร์ซีย์ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจต่อเอลเลียต แมเนจเมนท์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในทวิตเตอร์ และได้เรียกร้องให้นายดอร์ซีย์ลาออกจากตำแหน่งจาก 1 ใน 2 บริษัท

นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 581,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 7.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จาก Conference Board, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนต.ค. , จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ