ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะฟื้นตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากร่วงลงในการซื้อขายวานนี้
ณ เวลา 19.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 64 จุด หรือ 0.18% สู่ระดับ 36,016 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ปรับตัวลง 0.45% ขณะที่ดิ่งลงกว่า 500 จุดในการซื้อขายระหว่างวัน ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในวันนี้ โดยนายพาวเวลมีกำหนดแสดงวิสัยทัศน์ รวมทั้งมุมมองของเขาเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและนโยบายการเงินของเฟด ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย
คาดว่าวุฒิสภาจะให้การรับรองการแต่งตั้งนายพาวเวลเป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 แม้ว่าสมาชิกวุฒิสภาบางรายมีท่าทีคัดค้านก็ตาม
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 6.8% ในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.9% ในเดือนพ.ย.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลในเดือนก.ค.หรือเร็วกว่านั้น จากปัจจุบันที่พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ เช่น เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกจะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์