ดัชนีดาวโจนส์ฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากทรุดตัวลงอย่างหนักวานนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ณ เวลา 21.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,283.46 จุด บวก 43.28 จุด หรือ 0.13%
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 800 จุดวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน, การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการที่จีนประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวย่ำแย่ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 4.2% นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 7.8% และดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลง 12.2%
หุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้นกว่า 4% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่ดีกว่าคาด
อย่างไรก็ดี หุ้นอัลฟาเบทร่วงลง 5% ขณะที่หุ้นโบอิ้งดิ่งลง 12% หลังเปิดเผยผลประกอบการต่ำกว่าคาด
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ หรือเฟซบุ๊ก หลังปิดตลาดวันนี้ ส่วนบริษัทแอปเปิล และแอมะซอนจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 3-4 พ.ค. ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นหลังเดือนพ.ค. โดยอาจปรับขึ้น 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ