ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกจากแรงช้อนซื้อ จับตาประชุมเฟด-สงครามยูเครน

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (3 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 446.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด หรือ +0.53%

ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,561.33 จุด เพิ่มขึ้น 16.78 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,039.47 จุด เพิ่มขึ้น 100.40 จุด หรือ +0.72% และดัชนี CAC40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 6,476.18 จุด เพิ่มขึ้น 50.57 จุด หรือ +0.79%

นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยหุ้นเรฟเฟเซน แบงก์ อินเตอร์เนชันแนล ทะยานขึ้น 7% และหุ้นอิเล็กโทรลักซ์ พุ่งขึ้น 6.1%

หุ้นบีพี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 2.91% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2565 ที่ระดับ 6.2 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.5 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บีพียังประกาศซื้อหุ้นคืนเพิ่มอีก 2.5 พันล้านดอลลาร์

หุ้นบีเอ็นพี พารีบาส์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 5.15% หลังจากธนาคารเปิดเผยรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 19.2% ในไตรมาส 1/2565 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของกิจกรรมการค้า

ส่วนกำไรสุทธิของบีเอ็นพี พารีบาส์อยู่ที่ 2.11 พันล้านยูโรในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นจาก 1.77 พันล้านยูโรเมื่อเทียบรายปี ขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้น 11.7% แตะที่ 1.32 หมื่นล้านยูโร และค่าใช้จ่ายสำหรับหนี้เสียลดลง 49.1%

นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่สหรัฐและชาติตะวันตกระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะประกาศสงครามต่อยูเครนอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเป็น "วันแห่งชัยชนะ" ของรัสเซีย โดยทหารโซเวียตรัสเซียในขณะนั้นสามารถพิชิตกองทัพนาซีในวันดังกล่าวในปี 1945

ทั้งนี้ การประกาศสงครามต่อยูเครนอย่างเป็นทางการ จะทำให้รัฐบาลรัสเซียสามารถเรียกระดมกำลังทหารสำรองได้อย่างเต็มที่ หลังจากที่เผชิญการต่อต้านอย่างหนักจากยูเครนจนทำให้แผนการรบต้องล่าช้าออกไป