ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าร่วงลง หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ข้อมูลศก.จีนไร้ทิศทาง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 9, 2022 12:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ร่วงลง จากแรงกดดันที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ไร้ทิศทาง

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,410.30 จุด ลดลง 593.26 จุด หรือ -2.2% ส่วนดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,001.62 จุด ขยับขึ้น 0.0586 จุด หรือ +0.00%

ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (9 พ.ค.) เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของพระพุทธเจ้า

ทั้งนี้ ตลาดปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. แม้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้ปฏิเสธการคาดการณ์ดังกล่าวก็ตาม

สำหรับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดส่งออกของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 3.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 และชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 14.7%

ส่วนยอดนำเข้าทรงตัวในเดือนเม.ย. หลังจากที่ลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัวลง 3%

ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 5.112 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.065 หมื่นล้านดอลลลาร์ และสูงกว่าในเดือนมี.ค.ซึ่งจีนมียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 4.738 หมื่นล้านดอลลาร์

เศรษฐกิจจีนยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่รัฐบาลเดินหน้าใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ ซึ่งรวมถึงเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเซี่ยงไฮ้ซึ่งมีประชากรจำนวนมากถึง 25 ล้านคนจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในเร็ว ๆ นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ