ดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด จับตาผลประกอบการ, ถ้อยแถลง "พาวเวล"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 17, 2022 20:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้

ณ เวลา 20.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,542.68 จุด บวก 319.26 จุด หรือ 0.99%

ราคาหุ้นโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาสแรกสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้นกว่า 6% หลังจากที่นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน และเจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ เปิดเผยว่าเขาได้เพิ่มการถือครองหุ้นซิตี้กรุ๊ป

ในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ระบุว่า บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ได้ซื้อหุ้นซิตี้กรุ๊ปเพิ่มขึ้นมากกว่า 55 ล้านหุ้น ส่งผลให้หุ้นดังกล่าวมีมูลค่า 2.95 พันล้านดอลลาร์ในพอร์ทลงทุนของทางบริษัท

ทั้งนี้ เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ได้ช้อนซื้อหุ้นซิตี้กรุ๊ปในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาหุ้นของทางธนาคารปรับตัวย่ำแย่กว่าหุ้นตัวอื่นๆในภาคการเงิน โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลงเกือบ 40% ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่กองทุน Financial Select Sector SPDR Fund ปรับตัวลงเพียง 12%

นอกจากนี้ เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ยังได้ถือครองหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา, แบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน, มาสเตอร์ การ์ด และวีซ่า โดยมีการถือครองหุ้นแอปเปิล อิงค์มากที่สุด

นักลงทุนขานรับรายงานที่ว่า นครเซี่ยงไฮ้วางแผนที่จะยุติมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 1 มิ.ย. หลังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในชุมชนติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ซึ่งถือเป็นการบรรลุเป้าหมายสำคัญที่ทางการเซี่ยงไฮ้กำหนดไว้เพื่อเป็นเกณฑ์สำหรับการเริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มานานกว่า 6 สัปดาห์

ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลในคืนนี้ ซึ่งอาจส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT)

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนา Future of Everything Festival ซึ่งจัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ในวันนี้เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย

นอกจากนี้ นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายโจน คันลิฟฟ์ รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาดังกล่าวเช่นกัน

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี

ขณะเดียวกัน เฟดเตรียมทำ QT โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ปรับตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือนมี.ค. เป็นพุ่งขึ้น 1.4% จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.7%

เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 8.2% ในเดือนเม.ย.

ยอดค้าปลีกได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและอาหาร

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ