ดาวโจนส์ร่วงเกือบ 100 จุด กังวล PPI สูงเกินคาดหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 12, 2022 20:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดร่วงลงเกือบ 100 จุด ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงเกินคาด จะเป็นปัจจัยหนุนการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

ณ เวลา 20.32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 29,144.72 จุด ลบ 94.47 จุด หรือ 0.32%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนส.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.4% จากระดับ 8.7% ในเดือนส.ค.

นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนก.ย.ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสิ่งบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ผลการสำรวจพบว่า ดัชนี CPI ยังคงบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อที่ร้อนแรงในเดือนก.ย. โดยดีดตัวขึ้นมากกว่า 8% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

นายโทเบียส เอเดรียน ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดทุนและนโยบายการเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุเตือนว่า ความรู้สึกของนักลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐทรุดตัวลงอีก 20%

คำเตือนดังกล่าวของนายเอเดรียนสอดคล้องกับความเห็นของนายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งได้กล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 6-9 เดือนข้างหน้า และดัชนี S&P 500 จะดิ่งลงอีก 20% โดยขึ้นอยู่กับว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถจัดการภาวะเศรษฐกิจสหรัฐให้ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือทรุดตัวลงอย่างรุนแรง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ