ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ โดยหุ้นฮ่องกงนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่ ข้อมูลการค้าจีนอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,528.66 จุด พุ่งขึ้น 328.92 จุด หรือ +1.21%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 16,714.57 จุด เพิ่มขึ้น 553.43 จุด หรือ +3.42% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,084.87 จุด เพิ่มขึ้น +14.08 จุด หรือ +0.46%
ดัชนีฮั่งเส็งเทคของฮ่องกงปรับตัวขึ้น 4.71%
หุ้นฮ่องกงเปิดตลาดในแดนลบในวันนี้ ก่อนพลิกสู่แดนบวกในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนมองข้ามความเสี่ยงเกี่ยวกับนโยบายสกัดโควิด-19 แล้วแห่เข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์จีน
จีนรายงานยอดส่งออกรายปีลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 โดยยอดส่งออกลดลง 0.3% ในเดือนต.ค. และนำเข้าลดลง 0.7% ส่วนผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะปรับขึ้น 4.3% และ 0.1% ตามลำดับ
นักลงทุนจะจับตาบรรดาซัพพลายเออน์ของแอปเปิลในเอเชีย หลังจากแอปเปิลออกคำเตือนว่า การบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 ในจีนเริ่มส่งผลกระทบต่อการผลิต iPhone
แอปเปิลเปิดเผยคาดการณ์ในวันอาทิตย์ (6 พ.ย.) ว่า การส่งมอบโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่น iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ซึ่งเป็นรุ่นไฮเอ็นด์ของบริษัท จะน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากปัญหาโควิด-19 ระบาดได้บั่นทอนการผลิตในจีน
นายหู เซียง เจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 พ.ย.) ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศทำให้จีนยังคงต้องยึดมั่นต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และยังกล่าวด้วยว่าการใช้นโยบายดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ถ้อยแถลงของนายหู ถือเป็นการดับความฝันของนักลงทุน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า จีนจะผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และอาจจะทำการเปิดประเทศในเดือนมี.ค. 2566