ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงทะยานขึ้นกว่า 500 จุด หรือกว่า 3% ในช่วงเช้านี้ หลังจากหนังสือพิมพ์เหวิ่นเหว่ยโป่ (Wen Wei Po) รายงานว่า รัฐบาลฮ่องกงกำลังพิจารณายกเลิกข้อกำหนดการสวมหน้ากากอนามัยนอกอาคาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ณ เวลา 10.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีฮั่งเส็งพุ่งขึ้น 581.99 จุด หรือ +3.09% แตะที่ 19,396.81 จุด
ส่วนดัชนีหุ้นบริษัทจีนที่ซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง พุ่งขึ้นกว่า 2% และดัชนีหุ้นกลุ่มกาสิโนของมาเก๊า ทะยานขึ้น 8.2%
รายงานของหนังสือพิมพ์เหวิ่นเหว่ยโป่ระบุว่า รัฐบาลฮ่องกงกำลังพิจารณายกเลิกข้อกำหนดการสวมหน้ากากอนามัยนอกอาคาร รวมทั้งพิจารณามาตรการอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้ตรวจเชื้อโควิด-19 แบบรวดเร็ว หรือ ATK แทนการตรวจด้วยวิธี PCR ซึ่งปัจจุบันบังคับใช้กับผู้ที่เดินทางเข้าฮ่องกง นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลโรงพยาบาลของฮ่องกงอาจจะพิจารณาผ่อนคลายกฎเกณฑ์การปล่อยตัวผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ฮ่องกงตัดสินใจยกเลิกการกักตัวในโรงแรมสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าฮ่องกงเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะกอบกู้สถานะการเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลกของฮ่องกง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ฮ่องกงได้บังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยนอกตัวอาคารมาตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 ซึ่งประชาชนที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยจะถูกปรับเป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (640 ดอลลาร์สหรัฐ) หรืออาจจะต้องถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐหากศาลตัดสินว่ามีความผิด