ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 37.63 จุด, Nasdaq ร่วงกว่า 1% บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดหุ้นเติบโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 28, 2022 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันอังคาร (27 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 1% เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,241.56 จุด เพิ่มขึ้น 37.63 จุด หรือ +0.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,829.25 จุด ลดลง 15.57 หรือ -0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,353.23 จุด ร่วงลง 144.64 จุด หรือ -1.38%

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข่าวจีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาดทั้งขาเข้าและขาออก โดยจีนจะยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 หลังจากที่มีการบังคับใช้มานาน 3 ปีเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ จีนจะกลับมาดำเนินการออกวีซ่าให้กับชาวจีนที่อาศัยในแผ่นดินใหญ่สำหรับการเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566

แต่ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.779% ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการชำระหนี้ที่สูงขึ้นของบริษัทเอกชน เนื่องจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ

การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันหุ้นเติบโตซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อีกทั้งต้องพึ่งพาผลกำไรและการเติบโตในอนาคต ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้รวมถึงหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีทุนจดทะเบียนสูง โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2565 หุ้นเติบโตร่วงลงไปแล้วกว่า 30% เทียบกับหุ้นคุณค่า (Value Stocks) ที่ปรับตัวลงเพียง 7.5%

สำหรับหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้รวมถึงหุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.06% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.39% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.74% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ลดลง 0.98% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 3.66%

หุ้นคุณค่า ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น และเป็นปัจจัยที่พยุงดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก โดยหุ้นโบอิ้ง ปรับตัวขึ้น 0.18% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 1.36% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.38% หุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 1.27%

หุ้นเทสลา ทรุดตัวลง 11.41% หลังจากบริษัทเทสลาประกาศลดการผลิตรถยนต์ในโรงงานเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของเทสลา หลังพบพนักงานติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก

ทั้งนี้ เทสลาจะผลิตรถยนต์ในอัตราที่ลดลงในโรงงานดังกล่าวในช่วงวันที่ 3-19 ม.ค. 2566 ก่อนที่จะยุติการผลิตในช่วง 20-31 ม.ค.2566 ซึ่งตรงกับเทศกาลตรุษจีน

หุ้นเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ ร่วงลง 5.96% หลังบริษัทประกาศยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงฤดูหนาว ขณะที่สายการบินรายอื่น ๆ ในสหรัฐได้ยกเลิกเที่ยวบินเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ข่าวการเปิดประเทศของจีนเป็นปัจจัยหนุนหุ้นบริษทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยหุ้น JD.Com, หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และหุ้นพินตัวตัว (Pinduoduo) ปรับตัวขึ้นราว 1.4%-4.9%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่าดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 9.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 10.7% ในเดือนก.ย. โดยดัชนีราคาบ้านขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเพราะได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ตามการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ