ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจและรอการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,429.59 จุด ลดลง 3.81 จุด หรือ -0.01%, ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,789.31 จุด ลดลง 280.42 จุด หรือ -1.27% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,257.04 จุด ลดลง 12.28 จุด หรือ -0.38%
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2566 แต่เตือนว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและกรณีรัสเซียรุกรานยูเครนยังมีแนวโน้มที่จะถ่วงกิจกรรมเศรษฐกิจต่อไป
ในรายงานเศรษฐกิจฉบับล่าสุดซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (30 ม.ค.) IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ 2.9% ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้ยังคงต่ำกว่าการขยายตัวที่ระดับ 3.4% ในปี 2565
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 50.1 จากระดับ 47 ในเดือนธ.ค. และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49.8
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว และเป็นการขยายตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2565 หลังจากรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเดินสายการผลิตได้รวดเร็วกว่าที่คาดไว้
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค.ของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับ 54.4 จากระดับ 41.6 ในเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนเริ่มมีการขยายตัวเช่นกัน
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางชั้นนำ 3 แห่งของโลกในสัปดาห์นี้ โดยเฟดจะแถลงผลการประชุมในวันพุธที่ 1 ก.พ.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.ตามเวลาไทย ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.จะเป็นการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) โดยนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างก็คาดการณ์ซ่า ECB และ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้